การประเมินผลการปฏิบัติงาน Performance Agreement : PA ประจำปีงบประมาณ 2566 ครูโปรดปราน

รายงานการพัฒนางานตามข้อตกลง

Performance Agreement : PA

สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ตำแหน่งครู ไม่มีวิทยฐานะ

ประจำปีงบประมาณ 2566

นางสาวโปรดปราน คำเปลว

โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย

-CONTENTS-

สารบัญ

ผู้จัดทำข้อตกลง

ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางาน

ตามมาตรฐานตำแหน่ง

ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางาน

ที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนา

ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

แบบข้อตกลง

ในการพัฒนางาน (PA)

ประเด็นท้าทาย

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

ข้อมูล

ผู้รับการประเมิน

2. ด้านการส่งเสริมและ

สนับสนุนการจัดการเรียนรู้

3. ด้านการพัฒนาตนเองและ

วิชาชีพ

แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)

สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ไม่มีวิทยฐานะครู (ทุกสังกัด)

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

ระหว่างวันที่ 1 เดือนตุลาคม พ.ศ.2565 ถึงวันที่ 30 เดือนกันยายน พ.ศ.2566

แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัด

ข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA)

สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ (ทุกสังกัด)

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566

ระหว่างวันที่ 1 เดือนตุลาคม พ.ศ.2565 ถึงวันที่ 30 เดือนกันยายน พ.ศ.2566

นางสาวโปรดปราน คำเปลว

ครู

ไม่มีวิทยฐานะ

โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย

คศ.1

21,400 บาท

ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน

ข้อมูลผู้รับการประเมิน

ชื่อ-นามสกุล

ตำแหน่ง

วิทยฐานะ

สถานศึกษา

สังกัด

เงินเดือนในอันดับ

อัตราเงินเดือน

ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้

ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.1 สร้างและหรือพัฒนา

หลักสูตร

1.5 วัดและประเมินผล

การเรียนรู้

1.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้

1.6 ศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์

และหรือวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหา

หรือพัฒนาการเรียนรู้

1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้

1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริม

และพัฒนาผู้เรียน

1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ

นวัตกรรม เทคโนโลยี

และแหล่งเรียนรู้

1.8 อบรมและพัฒนา

คุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร

ลักษณะงานที่ปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งระดับการปฏิบัติที่คาดหวังปรับประยุกต์(Apply & Adapt)

มีการจัดทำรายวิชาและหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ ตามหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาสมรรถนะและการเรียนรู้ เต็มตามศักยภาพ โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น

ข้าพเจ้าดำเนินการวิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม สาระการเรียนรู้

มาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ เพื่อจัดทำคำอธิบายรายวิชา ออกแบบหน่วยการเรียนรู้โดยครอบคลุมเนื้อหาของหลักสูตร เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนา

สมรรถนะและการเรียนรู้เต็มศักยภาพ โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น ตามภาระงานสอนที่ได้รับมอบหมาย ผลจากการดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้โรงเรียนมีหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นักเรียนได้เรียนรู้ตามหลักสูตรสถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา และตัวชี้วัดตรงตามสมรรถนะในหลักสูตรแต่ละชั้นปี ดังนี้

1. หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

2. โครงการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้

เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะประจำวิชาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญ ตามหลักสูตร โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น

ข้าพเจ้าดำเนินการจัดทำและพัฒนาหน่วยการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชาภาษาไทย 6 (ท23102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ทักษะกระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะประจำวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญตามหลักสูตร โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา ผู้เรียน และท้องถิ่น และสอดคล้องกับคำอธิบายรายวิชา ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ เหมาะสมกับผู้เรียน บริบทของสถานศึกษา และท้องถิ่น ตามภาระงานสอนที่ได้ รับมอบหมาย ผลจากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้นักเรียนได้เรียนรู้ตามโครงสร้างรายวิชาและหน่วยการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตรงตามมาตรฐานและตัวชี้วัดตามธรรมชาติวิชา ตามหลักสูตรสถานศึกษา และได้รับการพัฒนาในด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญตามหลักสูตร ดังนี้

3. แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้

มีการอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ และส่งเสริมผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพ เรียนรู้และทำงานร่วมกัน โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน

ข้าพเจ้าได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการเรียนรู้ วิธีสอน และเทคนิคการสอนในแผนการจัดการเรียนรู้ และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะกระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด และส่งเสริมความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการคิด และความสามารถในการแก้ปัญหาของผู้เรียน โดยมี การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างหลากหลายวิธี โดยใช้รูปแบบ เทคนิคและวิธีการที่เน้นการปฏิบัติมีความหลากหลาย ใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี การจัดการเรียนรู้ การวัดผลและประเมินผลตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ จุดประสงค์ การเรียนรู้และสอดคล้องกับธรรมชาติของผู้เรียน อาทิ วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ วิธีสอนโดยเน้นกระบวนการปฏิบัติ วิธีสอนแบบ SQ4R วิธีสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เป็นต้น โดยมีการปรับประยุกต์ให้เหมาะสมกับความแตกต่างของผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษา ผลจากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างหลากหลาย ตรงตามศักยภาพในช่วงวัยของผู้เรียน ดังนี้

1. โครงการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

2. แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้

มีการสร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีการปรับประยุกต์ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียนและทำให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดและสามารถสร้างนวัตกรรมได้

ข้าพเจ้าได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้รูปแบบการเรียนรู้ วิธีสอน และเทคนิคการสอนในแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะกระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด และส่งเสริมความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถในการคิด และความสามารถในการแก้ปัญหาของผู้เรียน มีการสร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและแหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ โดยมีการปรับประยุกต์ ให้สอดคล้องกับความแตกต่างของผู้เรียน และมีการจัดทำ/จัดหาสื่อการสอนที่หลากหลาย อาทิ แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านจับใจความ แบบฝึกพัฒนาทักษะการแต่งโคลงสี่สุภาพ แบบฝึกพัฒนาทักษะการแต่งคำขวัญ สื่อวิดีโอการเรียนการสอนเรื่อง บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก การพูดโต้วาที สื่อเพาเวอร์พอยท์เรื่อง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย คำทับศัพท์และศัพท์บัญญัติ ใบงานเรื่อง คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทย บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก พระอภัยมณีตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทร บทพากย์เอราวัณ ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างหลากหลาย ตรงตามศักยภาพในช่วงวัยของผู้เรียน ดังนี้

1. สื่อ/นวัตกรรม

2. รายงานการใช้สื่อ นวัตกรรม และแหล่งเรียนรู้

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้

มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ด้วยวิธีการที่หลากหลายและสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับประยุกต์เหมาะสมกับบริบทของผู้เรียนและแนวทางการจัดการเรียนรู้

ข้าพเจ้าดำเนินการสร้างและพัฒนาเครื่องมือเพื่อใช้ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้อย่างหลากหลาย และครอบคลุมทั้งด้านพุทธิพิสัยหรือด้านความรู้ (K), ด้านทักษะพิสัยหรือด้านทักษะ (P) และด้านเจตพิสัย หรือด้านเจตคติ (A) โดยใช้แบบทดสอบก่อนเรียน , แบบทดสอบหลังเรียน , แบบประเมินผลการปฏิบัติ กิจกรรม และแบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทั้งที่เป็นเอกสารและระบบออนไลน์ (Google Form) และมีการจัดทำข้อสอบสอบกลางภาคและปลายภาค ด้วยรูปแบบที่หลากหลายทั้งปรนัยหลายตัวเลือก อัตนัยปลายเปิด สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ ดำเนินการวัดประเมินผลการเรียนรู้ตามสภาพจริง เพื่อปรับปรุง พัฒนา ตัดสินผลการเรียนรู้ ความก้าวหน้าและพัฒนาการของผู้เรียนที่สะท้อนระดับคุณภาพของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ ผู้เรียนได้รับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่หลากหลาย ครอบคลุมทักษะกระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด และส่งเสริมความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ความสามารถใน การคิด และความสามารถในการแก้ปัญหาของผู้เรียน ดังนี้

1. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้

2. เครื่องมือการประเมินผลและวัดผล

3. ตารางวิเคราะห์แบบทดสอบ (Test Blueprint) รายวิชาภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.6 ศึกษาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และหรือวิจัย

เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้

มีการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน โดยมีการปรับประยุกต์ใช้เทคนิคการสอนและนวัตกรรม การเรียนรู้มาพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน

ข้าพเจ้าได้ วิเคราะห์ และสังเคราะห์ รายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนใน รายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) และนำไปสู่กระบวนการแก้ปัญหาด้วยการวิจัย โดยมีการปรับประยุกต์ใช้เทคนิคการสอนและนวัตกรรมการเรียนรู้มาพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การวัดและประเมินผลความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ โดยใช้โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือตามกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียน ด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาตามกระบวนการวิจัยและครูผู้สอนได้นำมาใช้ในการ แก้ปัญหาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์การวัดและประเมินผลความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพของผู้เรียน ในรายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ดังนี้

1. รายงานการวิจัยในชั้นเรียน

2. นวัตกรรมการวิจัย

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน

มีการจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ให้เกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้ และมีการปรับประยุกต์ใช้นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี

ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดสภาพแวดล้อม บรรยากาศในชั้นเรียนที่ส่งเสริมและเอื้อต่อการเรียนรู้ กระตุ้นความสนใจใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา อบรมบ่มนิสัย เพื่อให้เกิดกระบวนการคิด ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน ทักษะการเรียนรู้และ ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิด จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ทักษะชีวิตจากการให้ผู้เรียนได้ลงมือคิด ดำเนินกิจกรรม และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทักษะการทำงานจากการปฏิบัติกิจกรรมที่มอบหมายทั้งลักษณะงานเดี่ยวและกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะและกระบวนการคิดในการเรียนรู้อย่างสูงสุด ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากการจัดบรรยากาศห้องเรียนและพัฒนาทักษะการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผู้เรียน มีความสุขในการเรียนรู้ ดังนี้

1. ภาพกิจกรรมบรรยากาศในชั้นเรียน

2. รายงานสื่อ ทะเบียนการใช้สื่อ

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

1. ด้านการจัดการเรียนรู้

1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน

มีการอบรมบ่มนิสัยให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และค่านิยมความเป็นไทยที่ดีงาม โดยมีการปรับประยุกต์ให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา

ข้าพเจ้าปลูกฝังค่านิยม และคุณลักษณะที่ดี เหมาะสมกับผู้เรียนให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เรียนมีค่านิยมที่ดีงาม และปลูกฝังความเป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตลอดจน การส่งเสริม และเป็นแบบอย่างให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในวันสำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับศาสนาที่ตนนับถือ สถาบัน พระมหากษัตริย์ ทั้งที่โรงเรียนและชุมชนจัดขึ้น ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความ มั่นใจในการพัฒนาตนเองเต็มตามศักยภาพ เพื่อค้นหาความถนัดและความชอบของตน โดยคำนึงถึงความ ปลอดภัยและความสุขของผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนมีความตั้งใจ เคารพในกฎกติกาข้อตกลงของโรงเรียน มีวินัยในและส่งงานที่คุณครูมอบหมาย มีสมาธิในการเรียน เคารพในสถานบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยมีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ สอดแทรกคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อรักความเป็นไทย ในบทเรียน และปรับประยุกต์ให้เหมาะสมกับผู้เรียนและบริบทของสถานศึกษา ดังนี้

1. แบบบันทึกการอบรมในชั้นเรียน

2. โครงงานคุณธรรมของห้องเรียน

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง

2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้

2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศ

ของผู้เรียนและรายวิชา

2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและ

งานอื่น ๆ ของสถานศึกษา

2.2 ดำเนินการตาม

ระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน

2.4 ประสานความร่วมมือกับ

ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย

และหรือสถานประกอบการ

2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้

2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา

มีการจัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชาเพื่อปรับประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ และพัฒนาคุณภาพผู้เรียน

ข้าพเจ้ามีการจัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา ให้เป็นปัจจุบันเพื่อปรับประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพของ ผู้เรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียน เก็บข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียน รายวิชา ภาษาไทย 6 (ท23102) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และรายวิชาอื่นที่ได้รับมอบหมายในการสอน เพื่อใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ในรายวิชา แก้ไขปัญหา และพัฒนาคุณภาพ ผู้เรียน ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ นักเรียน ได้รับการกำกับ ติดตามจากครูผู้สอนจากข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียน ดังนี้

1. แบบบันทึกผลคะแนนตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัด

2. แบบบันทึกคุณลักษณะอันพึงประสงค์

3. แบบบันทึกสมรรถนะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้

2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน

มีการใช้ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับผู้เรียนรายบุคคล และประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนา และแก้ปัญหาผู้เรียน โดยมีการปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา

ข้าพเจ้าดำเนินการดูแลช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเป็นระบบ โดยประสานความร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาผู้เรียน รวบรวมข้อมูลจาก แบบบันทึกข้อมูลผู้เรียนรายบุคคล วิเคราะห์ สังเคราะห์ ข้อมูลของผู้เรียน ตลอดจนออกเยี่ยมบ้านผู้เรียน เพื่อจัดทำและใช้สารสนเทศของผู้เรียนรายบุคคลที่ครอบคลุมทุกด้านและเป็นปัจจุบัน โดยมีการปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษาและผู้เรียน ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการกำกับ ติดตามจากครูผู้สอนด้วยวิธีการที่หลากหลาย ตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน ดังนี้

1. รายงานการเยี่ยมบ้าน

2. ข้อมูลนักเรียนรายบุคคล

3. การคัดกรองนักเรียน

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้

2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา

ร่วมปฏิบัติงานทางวิชาการ และงานอื่น ๆ ของสถานศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาและการนำมาปรับประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน

ข้าพเจ้าได้ร่วมปฏิบัติงานทางวิชาการ และงานอื่นๆ ของสถานศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา มีการวิเคราะห์หลักสูตรตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 โดยวิเคราะห์ตามตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู้ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาที่เน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ และการนำมาปรับประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ประสานความร่วมมือกับกลุ่มบริหารงานวิชาการ ปฏิบัติงานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาเกี่ยวกับงานวิชาการและงานอื่นๆ ของสถานศึกษาที่ได้รับมอบหมาย เช่น เป็นคณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมงานสัปดาห์ วันสุนทรภู่และวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปีการศึกษา 2566 ซึ่งเป็นการจัดกิจกรรมบูรณาการกับการเรียนรู้ในรายวิชาภาษาไทย 5 (ท23101) และรายวิชาภาษาไทย 6 (ท23102) อาทิ กิจกรรมการคัดลายมือ การแต่งคำประพันธ์ การเขียนเรียงความ การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง และการแต่งกายตัวละครในวรรณคดีไทย และสนับสนุนศักยภาพของผู้เรียนในการเข้าร่วมการแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 และเป็นเจ้าหน้าที่งานการเงินและบัญชีของโรงเรียน ตามเอกสารคำสั่งแต่งตั้งมอบหมายภาระงานสถานศึกษา ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้นักเรียน ได้รับการพัฒนาทักษะ ความสามารถ ในทางที่สร้างสรรค์และ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตจริงได้ ดังนี้

1. เอกสารคำสั่งแต่งตั้งมอบหมายภาระงานสถานศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

2. คำสั่งโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคมแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานการจัดกิจกรรมวันตรีเมธาสัมพันธ์ศาสตร์ ประจำปีการศึกษา 2566

3. เกียรติบัตรครูผู้ฝึกซ้อมนักเรียนจากการแข่งขันงานศิลปะหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 70 กิจกรรมกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ ระดับชั้น ม.ปลาย

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้

2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ

ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือสถานประกอบการ เพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียน โดยการปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผู้เรียนอย่างตรงจุด

ข้าพเจ้าใช้หลักกัลยาณมิตร และมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ และทุกวัย จึงได้รับการยอมรับจากผู้บริหารโรงเรียน ผู้ร่วมงาน เด็ก ผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป อีกทั้งมี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีบุคลิกภาพที่ดี มีความสามารถประสานงาน มีเหตุผลสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ได้ มีเทคนิคการพูด ชักชวน เสนอแนะ ให้กำลังใจ ทำงานร่วมกับผู้อื่นโดยสามารถวางตัวในการเป็นผู้นำ ผู้ตาม และเป็นผู้ให้ ผู้รับ ที่ดีมีหลักในการทำงาน มีความบริสุทธิ์ยุติธรรมและทำงานอย่างโปร่งใส ปราศจากอคติ ยึดประโยชน์ของเด็ก และส่วนรวมเป็นที่ตั้ง จึงประสบความสำเร็จในการทำงานเป็นทีมได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เป็นแบบอย่างที่ดีต่อผู้ปกครอง และนักเรียน ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการดูแลให้คำแนะนำจาการประสานความร่วมมือ ระหว่างสถานศึกษาและผู้ปกครองผ่านเครือข่ายผู้ปกครอง ดังนี้

1. รายงานการประชุมผู้ปกครองนักเรียน

2. กลุ่มไลน์ผู้ปกครองนักเรียนในชั้นเรียนที่เป็นครูที่ปรึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/5

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง

3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ

3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็น

ระบบและต่อเนื่อง

3.2 มีส่วนร่วม และเป็นผู้นำใน

การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ

เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้

3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะ

ที่ได้จากการพัฒนาตนเองและ

วิชาชีพมาใช้ในการพัฒนา

การจัดการเรียนรู้

3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ

3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง

พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษาสมรรถนะวิชาชีพครูและความรอบรู้ในเนื้อหาวิชาและวิธีการสอน

ข้าพเจ้ามีการพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษา สมรรถนะ วิชาชีพครูและความรอบรู้ในเนื้อหาวิชาและวิธีการสอน และเข้ารับการอบรม จากทั้งหน่วยงานภายใน กระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานภายนอก ดังนี้

1. เกียรติบัตร

2. ผลสัมฤทธิ์ที่เกิดกับผู้เรียน ครู โรงเรียน

ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาจากครูผู้สอนที่ผ่านการศึกษาหาความรู้ และการอบรมจากทั้งหน่วยงานภายในกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานภายนอก โดยนำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองมาปรับประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อคุณภาพผู้เรียนและเข้าร่วมอบรมของหน่วยงานทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย

1. การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) จัดขึ้นโดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย

2. การอบรมสัมมนาการจัดการศึกษาสำหรับโลกยุคใหม่ให้สอดคล้องกับการประเมินวิทยฐานะ จัดขึ้นโดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย

3. การอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การตัดต่อคลิปบนมือถือเพื่อใช้เป็นสื่อการสอน จัดขึ้นโดย โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

4. การอบรม เรื่อง ครูไทยยุคใหม่ หัวใจคุณธรรม จัดขึ้นโดย โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

เป็นต้น

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ

3.2 มีส่วนร่วม และเป็นผู้นำในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้

มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้

ข้าพเจ้าได้ เข้าร่วมกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) โดยจัดตั้งวง PLC กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสะท้อนผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูในกลุ่มมาพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้นักเรียน ได้รับการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ดังนี้

1. แบบบันทึกการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

2. ตารางการการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ

3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้

นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้

ข้าพเจ้าได้นำความรู้ความสามารถ ทักษะ ที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการ จัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการจัดการเรียนรู้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน และเพื่อเป็นการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และนำความรู้ที่ได้รับจากการอบรม ในด้านต่างๆ มานำเสนอ อภิปราย และคิดวิเคราะห์ในการนำความรู้ที่ได้รับมาพัฒนาวิชาการและงานอื่นๆ ของสถานศึกษา เช่น

1. จากการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะความสามารถด้านการอ่านและการเขียน เช่น การนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวรรณคดีเรื่อง บทละครพูดเรื่องเห็นแก่ลูก โดยให้ผู้เรียนอ่านจับใจความเรื่องราวแล้วเขียนสรุปลงในใบกิจกรรม เป็นต้น

2. จากการอบรมครูไทยยุคใหม่ หัวใจคุณธรรม

ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการอบรมบ่มนิสัยตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เช่น การนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนเรื่อง การพูดโน้มน้าวใจ โดยให้นักเรียนได้ศึกษาข้อคุณธรรมที่ตนเองเลือกหมายเลขแล้วสืบค้นข้อมูลออกมาพูดโน้มน้าวหน้าชั้นเรียน เป็นต้น

3. จากการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)

ผลจากการดำเนินงานดังกล่าวส่งผลให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะ ความสามารถ กระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ เช่น การนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวรรณคดีเรื่อง บทพากย์เอราวัณ โดยการนำเครื่องมือที่ได้จากการอบรม Thinking Based Learning KWL ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนากระบวนการคิดของนักเรียน เป็นต้น

1. เกียรติบัตรการอบรม

2. เกียรติบัตรครูผู้สอนยอดเยี่ยม (กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย)

3. การจัดทำนวัตกรรมที่สืบเนื่องจากการอบรม

4. กิจกรรมที่สืบเนื่องจากการอบรม

ดูร่องรอยหลักฐาน

ประกอบตัวชี้วัดทั้งหมด

ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนา

ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

ประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน

ประเด็นที่ท้าทาย เรื่อง

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การวัดและประเมินผลความสามารถ

ด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ

โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือตามกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม

1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน

จากสภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน รายวิชา ภาษาไทย 6 รหัสวิชา ท 23102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ผู้เรียนมีผลการประเมินความสามารถในด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ จากการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน อยู่ในระดับ พอใช้ และจากการสอบถามนักเรียนถึงสาเหตุที่ทำให้ไม่เข้าใจเนื้อหาเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น ผู้เรียนขาดความรู้และทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ซึ่งเป็นทักษะการเขียนที่ยากสำหรับผู้เรียนต้องมีการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและการแต่งคำประพันธ์เป็นเรื่องค่อนข้างยากสลับซับซ้อนจึงไม่สามารถแต่งได้จึงส่งผลให้ผู้เรียนไม่ชอบการแต่งคำประพันธ์ เมื่อครูผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนแต่งคำประพันธ์ผู้เรียนมักจะไปค้นหาจากในอินเทอร์เน็ตไม่ได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองจึงส่งผลให้ผู้เรียนไม่สามารถแต่งคําประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพได้และไม่สามารถบรรลุตามตัวชี้วัดที่กําหนดว่านักเรียนสามารถแต่งบทร้อยกรองประเภทโคลงสี่สุภาพได้ ครูผู้สอนจึงนำวิธีสอนแบบร่วมมือตามกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิดมาแก้ไขปัญหาความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ เนื่องจากทักษะดังกล่าวเป็นทักษะที่มีความจำเป็นและเป็นประโยชน์แก่ผู้เรียน

2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล

1. ผู้สอนนำเครื่องมือวัดและประเมินผลแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน เรื่อง การแต่งคำประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ไปทดสอบกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 40 คน ใช้เวลา 30 นาที

2. ผู้สอนดำเนินการสอนตามแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชา ภาษาไทย 6 รหัสวิชา ท23102 แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ 4 เรื่อง การแต่งโคลงสี่สุภาพ ใช้เวลา 4 ชั่วโมง โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือตามกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด

3. ผู้สอนนำเครื่องมือวัดและประเมินผลแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง การแต่งคำประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ ไปทดสอบกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 40 คน ใช้เวลา 30 นาที

4. ผู้สอนนำข้อมูลที่ได้จากการวัดและประเมินผลก่อนเรียนและหลังเรียน มาทำการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การวัด และประเมินผลความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพแล้ววิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ

3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง

3.1 เชิงปริมาณ

ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม ร้อยละ 70 มีทักษะด้านการแต่ง คำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ

3.2 เชิงคุณภาพ

ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม สามารถแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป

4. ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์การวัดและประเมินผลความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ โดยใช้วิธีสอนแบบร่วมมือตามกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ปีการศึกษา 2565 พบว่า นักเรียนที่มีผลการประเมินความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพอยู่ในระดับปรับปรุง จำนวน 4 คน ระดับพอใช้ จำนวน 21 คน และระดับดี จำนวน 15 คน หลังจากใช้นวัตกรรมในการวิจัยวิธีสอนแบบร่วมมือตามกระบวนการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด การวัดและประเมินผลความสามารถด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ นักเรียนมีผลการประเมินเพิ่มขึ้นเป็นระดับดีมาก จำนวน 15 คน ระดับดี จำนวน 22 คน และมีผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้ ลดลง เหลือจำนวน 3 คน และไม่มีผลการประเมินอยู่ในระดับปรับปรุง เมื่อพิจารณาจากคะแนนของนักเรียนทั้งหมด พบว่า นักเรียนร้อยละ 92.5 มีทักษะด้านการแต่งคำประพันธ์ประเภทโคลงสี่สุภาพ อยู่ในระดับ ดี ขึ้นไป

Thank YOu